เชื่อว่าตอนนี้หลาย ๆ พื้นที่ภายใต้ท้องฟ้าประเทศไทยน่าจะเริ่มปกคลุมไปด้วยเม็ดฝนโปรยปรายแล้ว และแน่นอนว่าอาวุธสำคัญที่ต้องพกพาออกไปนอกบ้านในสภาวะอากาศอย่างนี้คงไม่พ้น “ร่ม”
ร่มเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่อยู่คู่กับมนุษย์โลกมาเป็นเวลายาวนานกว่า 4,000 ปีแล้วก็อยู่ของมันแบบนั้น จนเมื่อไม่กี่ปีมานี้เริ่มมีคนหยิบจับเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาพัฒนาให้ร่มกลายเป็นนวัตกรรมสุดเก๋ พร้อมด้วยดีไซน์ที่เฉียบขาด วันนี้จะแนะนำนวัตกรรมร่มแบบกลับด้าน ที่จะรักษาวันดีดีของคุณไม่ให้ต้องล่มไปพร้อมกับสายฝน
ทำไมร่มต้องกางและเก็บในแบบที่มันเป็นอยู่ทุกวันนี้ด้วยล่ะ ? อาจจะเป็นคำถามที่ทุกคนสงสัย เพราะการเก็บของร่มทั่วไปมักจะทำให้น้ำฝนกระเด็นและจะเอาไปวางที่ไหนก็เปียก
มนุษย์จึงลุกขึ้นมาปฏิวัติวงการร่มด้วยนวัตกรรมการกางและเก็บร่มแบบ Reverse
คือสวนทางกับร่มทั่วไป คล้าย ๆ กับการบานออกของดอกไม้ นวัตกรรมนี้ทำให้น้ำฝนที่ค้างอยู่ถูกเก็บเข้าไปอยู่ข้างในเวลาเก็บร่ม ทำให้สามารถเอาร่มไปวางที่ไหนก็ได้โดยไม่เปียก และการเปิดปิดแบบนี้ทำให้เปิดปิดในที่แคบได้สะดวกขึ้น ได้อย่างง่ายดายนั่นเอง โดยเฉพาะบนรถยนต์ ซึ่งปกติแล้วในขณะฝนตก หากจะกางร่มเมื่อลงจากรถยนต์ ก็ต้องยื่นร่มออกมาให้พ้นตัวรถจนถึงโคนด้ามจับของร่ม จึงต้องคิดค้นนวัตกรรมร่มทำให้มีโอกาสโดนผู้คนได้น้อยลงได้ด้วย เป็นการพลิกสิ่งที่เราคุ้นเคยให้ออกมาเป็นสิ่งใหม่ได้อย่างลงตัวและมีประโยชน์
ร่มกลับด้าน เป็นร่มที่ผลิตขึ้นมาด้วยนวัตกรรมใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งาน และสามารถใช้งานได้อย่างคุ้มมค่าที่สุด โดยร่มกลับด้านราคาส่งแบบนี้นั้น จะมีลักษณะที่ตรงข้ามกับร่มแบบทั่วไปทุกอย่าง คือ จะมีด้ามจับที่มีลักษณะเหมือนยอดของร่มแบบธรรมดา แบบด้ามจับรูปตัว C สามารถใช้คล้องมือแล้วเอาร่มพาดไหล่ กดเล่นโทรศัพท์ได้สบาย
และปลายร่มส่วนที่บานออกชี้ขึ้นบน ซึ่งต่างจากร่มทั่วๆไป ที่ส่วนปลายหุบและส่วนด้ามจับบานออก โดยหากมองด้วยสายตา ก็จะเหมือนกับร่มหุบกลับด้านอยู่ จึงถูกเรียกว่าร่มกลับด้านนั่นเอง แต่ร่มแบบนี้ก็มีข้อดีและมีคุณสมบัติที่ดีไม่น้อย อย่างที่บอกไปว่า ร่มกลับหัวแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีและคุ้มค่ากว่าร่มแบบเดิมๆ จึงมีคุณสมบัติที่โดดเด่นกว่าและน่าใช้งานมากกว่าอีกด้วย
สำหรับการใช้งานร่มกลับด้านนั้น ก็ใช้งานได้เหมือนกับร่มทั่วๆ ไป เพียงแต่สะดวกกว่า โดยเฉพาะบนรถยนต์ ซึ่งปกติแล้วในขณะฝนตก หากจะกางร่มเมื่อลงจากรถยนต์ ก็ต้องยื่นร่มออกมาให้พ้นตัวรถจนถึงโคนด้ามจับของร่ม ถึงจะกางร่มได้ แต่กว่าจะได้กางก็คงจะพากันเปียกปอนไปเกือบครึ่งตัวกันเลยทีเดียว
1. ผ้าร่มมีความหนา มีด้วยกัน 2 ชั้น สามารถกันฝนได้ดี ทั้งยังมีสารเคลือบป้องกันรังสี UV อีกด้วย จึงทำให้แสงแดดที่ส่องลงมากระทบกับร่ม ถูกสะท้อนกลับไป ช่วยให้ผิวของเราได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ แดดร้อนแรงแค่ไหน ก็ไม่ทำให้ผิวถูกทำร้ายจนหมองคล้ำอย่างแน่นอน
2. สามารถหุบและกางออกได้อย่างง่ายดาย สะดวกในทุกๆ ที่ที่ไป แม้แต่เมื่ออยู่บนรถยนต์ ก็สามารถที่จะกางร่มก่อนลงจากรถได้โดยแทบจะไม่โดนฝนเลย ซึ่งต่างจากร่มแบบเดิมๆ ที่กว่าจะกางร่มได้ ก็เปียกฝนไปเกือบครึ่งตัวซะแล้ว
3. โครงร่มมีความแข็งแรง และมีรูระบาย
และถูกออกแบบให้ต้านทานแรงลมได้อย่างดีเยี่ยม จึงไม่ทำให้ร่มปลิวไปตามแรงลมที่พัดมา หรือก้านร่มชำรุดเสียหายได้ง่าย ทั้งยังมีดีไซต์การออกแบบที่ดูสวยเก๋ ภายในจะมีรูระบายอากาศ เพราะเมื่อเปืยกฝนแล้วเม็ดฝนจะไม่ซึมลงในร่มเมื่อหุบร่มตัวรูจะช่วยระบายน้ำฝนให้แห้งสนิท น่าใช้งานเป็นอย่างมากอีกด้วย
4.ลายสวยๆ เก๋ สีสันสะดุดตา ด้วยการเพิ่มลายเข้าไป ที่แบบเก่าเป็นแค่สีพื้น ช่วยให้มีความโดนเด่นตอนกางออกและตอนหุบ เพิ่มความน่าใช้งานอย่างมาก